วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

แถลงการณ์เครือข่ายคนรักสุขภาพและเครือข่ายคนรักประเทศไทย ฉบับที่ ๒

๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๖
บนวิบากตลอดเส้นทางสู่การยื่นแถลงการณ์คัดค้านการออกกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่ง หรือสุดซอย ต่อวุฒิสภา เพราะเป้าหมายที่เราจะเดินทางตั้งอยู่ในพื้นที่ของการประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ แต่ด้วยเป้าหมายที่จะร่วมสร้างประวัติศาสตร์ชาติไทยที่แสนยิ่งใหญ่ จึงเป็นพลังผลักดันให้คณะของเราปฏิบัติภารกิจนั้นสำเร็จเสร็จสิ้นลง
ผมรู้ตัวว่าได้รับการวางตัวให้เป็นผู้แทนคนหนึ่งของเครือข่ายคนรักสุขภาพและเครือข่ายคนรักประเทศไทย ที่ต้องทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้ ในขณะที่ผมนั่งทำหน้าที่เลขานุการการประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อร่างนโยบายสาธารณะว่าด้วยการตายดี ที่จัดขึ้นที่โรงแรมรามาการ์เด้นท์ กรุงเทพมหานคร ในช่วงเวลา ๑๑.๐๐ น.
ผมแตะมือมอบให้ทีมงานที่นั่งอยู่ด้วยกันให้ทำหน้าที่แทน ก่อนจะรีบเดินทางไปพบกับอีกเครือข่ายท่านอื่น ณ ที่นัดหมาย เพื่อปรึกษาหารือกัน
เรานัดหมายกับทางวุฒิสภาไว้ตอน ๑๕.๐๐ น. เราจึงออกเดินทางจากที่ตั้งตอน ๑๔.๐๐ น. โดยรถตู้ แต่เราคาดการณ์ผิด เพราะว่าสถานการณ์บ้านเมืองอยู่ในขั้นวิกฤต พื้นที่บริเวณรอบรัฐสภาถูกปิดกั้นด้วยรั้วลวดหนามและมีกองกำลังปราบผู้ชุมนุมเต็มพื้นที่ไปหมด ส่งผลให้การจราจรติดหนึบ รถตู้ไม่สามารถฝ่าไปยังเป้าหมายได้
แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยการเปลี่ยนวิธีการเดินทางจากรถตู้ มาเป็นการเดินและมอเตอร์ไซด์รับจ้าง คณะขอเราจึงสามารถอ่านและยื่นแถลงการณ์ต่อรองประธานวุฒิสภาท่านหนึงได้ ในขณะที่เวลาได้ล่วงเลยเวลานัดหมาไปกว่า ๑ ชั่วโมงครึ่ง
และต่อไปนี้คือข้อความของแถลงการณ์ฉบับนั้น
..................................
แถลงการณ์ “เครือข่ายคนรักสุขภาพ และ เครือข่ายคนรักประเทศไทย” ฉบับที่ ๒
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ ๓๑ ตุลาคม ที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรได้อาศัยเสียงข้างมาก ผ่านวาระ ๓ ร่าง พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง และการแสดงออกทางการเมืองของประชาชน พ.ศ. .... ฉบับทำลายหลักนิติธรรม ฟอกผิดให้คนโกงไม่จริงใจต่อประชาชน จนเกิดเป็นวิกฤติศรัทธา และเกิดการเคลื่อนไหวคัดค้านทั่วประเทศนั้น เมื่อวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ ที่ผ่านมา “เครือข่ายคนรักสุขภาพ และเครือข่ายคนรักประเทศไทย” นำโดยนายวิสุทธิ บุญญะโสภิต นายสุรพงษ์ พรมเท้า และตัวแทนภาคีเครือข่ายทั่วประเทศกว่า ๑๐๐ คน ได้ออกแถลงการณ์ประณาม และต่อต้าน พ.ร.บ.ฯ ฉบับดังกล่าว และได้แสดงพลังเดินขบวนต่อต้านที่หน้าอาคารสุขภาพแห่งชาติ ในกระทรวงสาธารณสุข (แถลงการณ์และภาพถ่ายการแสดงพลังตามที่แนบ)
เนื่องจากกฎหมายดังกล่าว จะถูกนำ เข้าสู่การพิจารณาของวุฒิสภาในวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ แม้ขณะนี้นายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ได้แถลงว่าพร้อมที่จะถอย และประธานวุฒิสภาแถลงว่าจะไม่รับหลักการในวาระ ๑ แล้วก็ตามแต่เครือข่าย ก็ยังไม่มีความมั่นใจ และไม่เชื่อใจคำแถลงเหล่านั้น เพราะการกระทำที่ผ่าน ๆ มาได้สร้างให้ประชาชนขาดความไว้วางใจว่าพวกเขาจะคิดและทำเพื่อประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง มากกว่าจะทำเพื่อคนบางคนบางกลุ่ม
ดังนั้น “เครือข่ายคนรักสุขภาพ และ เครือข่ายคนรักประเทศไทย” ขอแถลงการณ์ (ฉบับที่ ๒) เพื่อยื่นต่อสมาชิกวุฒิสภาให้พิจารณาการทำหน้าที่โดยตระหนัก และคำนึงเจตนารมณ์ของประชาชนที่ต่อต้านและไม่ยอมรับการออกกฎหมายนิรโทษกรรมฉบับพวกมากลากไปนี้
ลงชื่อ "เครือข่ายคนรักสุขภาพและเครือข่ายคนรักประเทศไทย"
วันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๖
.....................................
หลายประโยคที่กล่าวโดยวุฒิสภาที่เราไปพบครั้งนี้ กล่าวขอบคุณพลังของเครือข่ายของเราที่เห็นแก่ประโยชน์ต่อบ้านเมือง และให้ความสำคัญต่อบทบาทของวุฒิสภาว่าเป็นกลไกที่จะคลี่คลายปัญหาอันหนักอึ้งที่กำลังเกิดขึ้นกับประเทศชาติได้ โดยรับปากว่าจะปฏิบัติหน้าที่ที่ตระหนักและคำนึงถึงเจตนารมณ์ของประชาชนส่วนใหญ่อย่างมั่นคง
ผมในฐานะที่ร่วมอยู่ในเวลาประวัติศาสตร์นั้น จึงขอนำคำขอบคุณจากวุฒิสภาเหล่านั้นมาส่งต่อเพื่อนสมาชิกของเครือข่ายได้รับทราบร่วมกัน
และที่สำคัญพวกเราควรจะภูมิใจร่วมกันว่าเครือข่ายของเราเป็นส่วนหนึ่งของเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ครั้งนี้ ที่มีเป้าหมายเพื่อธำรงรักษาไว้ซึ่งประเทศที่ยึดหลักนิติรัฐ นิติธรรม อย่างมั่นคง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น