๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๕๖
ผมเคยเขียนเรื่องนี้มาครั้งหนึ่งตอนปี ๒๕๕๓ ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี แต่ในวันนั้นผมเขียนไปแบบไม่ค่อยเชื่อนัก แต่วันนี้ความคิดผมเปลี่ยนไป มีระดับความเชื่อเพิ่มสูงขึ้น เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ มันช่างเป็นไปตามคำทำนายที่มีการเล่าขานและส่งต่อกันมาอย่างยาวนานมากขึ้น ๆ ฤาไทยเราจะเป็นดั่งคำทำนายนี้จริง ๆ
คำทำนายที่ผมกำลังพูดถึงนี้ ถูกประพันธ์เป็นกลอนแปด ผมจำไม่ได้ว่านำบทกลอนบทนี้มาจากแหล่งใด ก็ต้องขอโทษเจ้าของบทกลอนนี้ไว้ ณ ที่นี้ด้วย
บทกลอนบทนี้ ตั้งชื่อว่า “คำทำนาย” มีเนื้อหาว่า
..................................
คำทำนายที่เคยมีช้านานนัก เริ่มประจักษ์ให้เห็นเร้นไม่ได้
ฤาษีลิงดำเคยทำนาย เมื่อถึงปลายรัชกาลผ่านเข้ามา
ประเทศชาติจะรุ่งเรืองและเฟื่องฟุ้ง น้ำมันผุดขึ้นมาจนเห็นค่า
พวกกาขาวจะบินรี้หนีเข้ามา เป็นประชาจนเต็มพระนคร
ชนทั่วโลกจะยกพระองค์ท่าน ชื่อกระฉ่อนร่อนทั่วทุกสิงขร
ออกพระนามลือชื่อดั่งทินกร องค์อมรเอกบุรุษแห่งแผ่นดิน
ชาวประชาจะปิติยิ้มสดใส แต่อกไหม้หนอนกินข้างในสิ้น
จะมีพวกกาฝากคอยกัดกิน เพื่อให้ได้สิ่งถวิลสมจินตนา
จะมีการต่อยตีกันกลางเมือง ขุนนางเขื่องกังฉินกินทั่วหล้า
คอรัปชั่นจะกัดกร่อนทั้งพารา ประดุจปลวกกินฝานั้นปะไร
ข้าราชการตงฉินถูกประนาม สามคนหามสี่คนแห่มาลากไส้
เกิดวิกฤติผิดเพี้ยนโดยทั่วไป โกลาหลหม่นไหม้ไร้ความดี
ประชาชีจะสับสนเรื่องดีชั่ว ถ้วนทุกทั่วจะหมุดขุดรูหนี
ไม่แน่ใจสิ่งที่ทำนำความดี เกรงเป็นผีตายตกไปตามกัน
พุทธศาสน์จะถูกรุกและล้ำ มิตรเคยค้ำเป็นศัตรูมุ่งอาสัญ
เกิดวิกฤติธรรมชาติอุบาทว์ครัน พายุลั่นน้ำถล่มดินทลาย
แผ่นดินแยกแตกเป็นสองปกครองยาก เกิดวิบากทุกข์เข็ญระส่ำระสาย
เกิดการปราบจลาจลชนล้มตาย เลือดเป็นสายน้ำตานองสองแผ่นดิน
ข้าเป็นนายนายเป็นข้าน่าสมเพช ผู้มีบุญมีเดชจะสูญสิ้น
ทั้งพฤฒาอาจารย์ลือระบิล จะร่วงรินดุจใบไม้ต้องสายลม
ความระทมจะถมทับนับเทวศ ดั่งดวงเนตรมืดบอดสุดขื่นขม
คนที่ดีจะก้มหน้าสุดระทม ส่วนคนชั่วหัวร่อร่าทำท่าดัง
จะมีหนึ่งนารีขี่ม้าขาว ควงคฑามุ่งสู่ดาวสร้างความหวัง
ผู้ปกครองจะเป็นหญิงพึงระวัง สายน้ำหลั่งกรากเชี่ยวหวาดเสียวใจ
ศิวิไลซ์จะบังเกิดในสยาม หลังฝนคร้ามลั่นครืนจะยืนได้
จะเข้าสู่ยุคมหาชนพาไป เปลี่ยนเมืองใหม่ศักราชแห่งประชา
คนชั่วจะถูกปราบราบคาบสิ้น แผ่นดินเดือดสูญหายไร้ปัญหา
ประเทศชาติผ่านวิกฤติด้วยศรัทธา ยามเมื่อฟ้าศรีทองผ่องอำไพ
ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน
...............................
คิดอย่างไรบ้างครับเมื่อท่านอ่านจบ ผมเชื่อว่าทุกท่านคงเกิดคำถามขึ้นในใจอย่างแน่นอนว่า “ทำไมมันคล้ายกับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดอยู่ในขณะนี้จัง”
แต่อย่างไรก็ตาม ความวิตกกังวลห่วงใยบ้านเมืองที่มีอยู่ก็รู้สึกผ่อนคลายลงไปบ้าง เพราะข้อความในบทกลอนใน ๒ บทสุดท้ายนั้นได้บ่งบอกเป้าหมายที่คนไทยทุกคนต้องการ
ผมเขียนถึงตรงนี้ สมองของผมบอกว่าใกล้จะถึงเวลานัดหมายกับเพื่อนที่จะชวนกันไปศูนย์ราชการ ที่ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อร่วมกับมวลมหาประชาชนที่มาชุมนุมอยู่ที่นั่น เพื่อทำให้บทสุดท้ายของคำทำนายที่ว่า
"ยามเมื่อฟ้าศรีทองผ่องอำไพ ประชาชนจะเป็นใหญ่ในแผ่นดิน"
เป็นจริง สวัสดีครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น