วันจันทร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2557

จดหมายถึงเพื่อน ฉบับที่ ๓

๑๓ มกราคม ๒๕๕๗

บุญส่ง เพื่อนรัก

“เสียงปี่-เสียงกลอง-ที่ก้องกึก
เสียงโห่ดัง-ดั่งออกศึก-อย่างฮึกเหิม
รวมพลัง-ใจไทย-มาต่อเติม
พรพระเจิม-กอบกู้-สู้เพื่อคนไทย

ข้าศึกเรา-คือระบอบ-ทุจริต
ที่มาปิด-คลุมฟ้า-เคยสดใส
เรามาช่วย-ชำระ-ล้างคราบไคล
ช่วยกันไล่-ให้พ้น-แผ่นดินเรา"

พลันที่เสียงเป่านกหวีดก้องกังวานขึ้นพร้อมกันหน้าอาคารสุขภาพแห่งชาติ ณ เวลา ๘ โมง ๔๕ นาที นั้นเป็นเวลาของการเคลื่อนขบวนในวันนี้ เราเริ่มต้นอ่านบทกลอนข้างต้นที่แต่งเองเมื่อคืนนี้ เพื่อสร้างพลังและความฮึกเหิมต่อชัยชนะให้ปรากฏ ก่อนที่ขบวนจะเคลื่อนไปตามเส้นทางที่วางไว้

งานในวันนี้ คือ การรวมพลังเคลื่อนขบวนมวลมหาประชาชน ขับไล่รัฐบาลรักษาการของนายกรัฐมนตรี (นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) โดยมี ๕ เครือข่ายเข้าร่วม คือ เครือข่ายคนรักประเทศไทย เครือข่ายคนรักสุขภาพ เครือข่ายสมัชชาปฏิรูปประเทศไทย เครือข่ายสุขภาพแห่งชาติ และเครือข่ายคนรุ่นใหม่หัวใจพลเมือง

ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา หัวหน้าทีมและเพื่อนๆ ทั้งในและนอกองค์กร ต่างช่วยกันตระเตรียมงานตามบทบาทหน้าที่และความเชี่ยวชาญของแต่ละคน สำหรับเราถูกมอบหมายให้รับหน้าที่ร่างแถลงการณ์ (ที่ปรับถึง ๔ รอบ กว่าจะเหมาะสมที่สุด) และประสานงานและจัดเตรียมผู้ไฮปาร์คในขบวนนี้

แม้เมื่อคืนเราจะเข้านอนตอนตีหนึ่ง แต่ก็นอนไม่หลับสนิทเหมือนวันก่อน ๆ คงเพราะกังวลกับงานอันสำคัญที่ใกล้เข้ามา มาหลับเอาตอนค่อนแจ้ง สะดุ้งตื่นตอนรุ่งเช้าจึงรีบขับรถไปที่ทำงาน ถึงประมาณ ๗ โมงเช้า ทีมงานหลายคนมาถึงล่วงหน้าแล้ว ต่างเตรียมพร้อมกันอีกรอบ เราก็ได้เตรียมเอกสารที่จะใช้ไปในคราเดียวกัน พอทีมไฮปาร์คมาครบ งานจึงเริ่มขึ้น ณ บัดนั้น

อยากบอกกับนายว่า ทีมงานไฮปาร์คของเรายอดเยี่ยมมากเลย เราขอระบุนามไว้ในจดหมายฉบับนี้ด้วย คือ พี่รัตนา สมบูรณฺวิทย์ พี่ภารณี สวัสดิรักษ์ พี่สุรพงษ์ พรมเท้า พี่วณี ปิ่นประทีป น้องบรรพต กาญกมล และตัวเราที่ทำหน้าที่ประสานงาน กำกับเนื้อหาและจัดคิว โดยทุกคนช่วยกันพูดและสร้างพลังร่วมจากผู้ร่วมขบวนได้อย่างสุดยอดทุกคน ซึ่งเราขอขอบคุณไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย

งานวันนี้ได้รับเกียรติจากผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการสุขภาพอย่างมาก มีทั้งอดีตรัฐมนตรี อดีตรัฐมนตรีช่วย อดีตปลัดกระทรวง อดีตรองปลัดกระทรวง และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่อีกหลายท่าน

ที่เราเห็นก็มี นพ.มงคล ณ สงขลา อดีต รมว.สาธารณสุข นพ.มรกต กรเกษม อดีต รมช.สาธารณสุข นพ.ศิริวัฒน์ ทิพย์ธราดล อดีตรองปลัดกระทรวง นพ.ไพจิตร วราชิต อดีตปลัดกระทรวง นพ.หทัย ชิตานนท์ อดีตรองปลัดกระทรวง นพ.ณรงค์ศักดิ์ อังคะสุวพลา อดีตรองปลัดกระทรวง นพ.อำพล จินดาวัฒนะ เลขาธิการสุขภาพแห่งชาติ เป็นต้น

นอกจากนั้นก็มีเครือข่ายมาร่วมขบวนประมาณ ๓๐๐ คน ทั้งเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ แม้ผู้พิการก็มาร่วมหลายคน

ขบวนของเราค่อยๆ เคลื่อนไปตามเส้นทาง มุ่งหน้าไปยังพระบรมราชานุสาวรีย์ของสมเด็จพระราชบิดาและสมเด็จย่า เพื่อถวายสักการะ ขอพรนำชัยให้กับกองทัพเรา

จุดที่เป็นไฮไลท์ที่สุด คือ กิจกรรมอ่านแถลงการณ์ที่หน้าตึก ซึ่งเป็นที่ทำงานของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยมีข้อเรียกร้อง ๔ ข้อ คือ

(๑) ขอยืนยันให้มีการปฏิรูปประเทศไทยและปฏิรูปการเมือง โดยกลไกที่เป็นกลาง เป็นที่ยอมรับจากทุกฝ่าย เพื่อให้มีกฎเกณฑ์กติกาประชาธิปไตยที่เป็นธรรม ป้องกันไม่ให้เกิดเผด็จการประชาธิปไตยที่มาจากอำนาจเงินและระบบพวกพ้อง ให้ได้ก่อนการเลือกตั้งครั้งใหม่ โดยให้เลื่อนการเลือกตั้งในวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๗ ออกไปก่อน

(๒) ให้นายกรัฐมนตรี (นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร) และคณะรัฐมนตรี ลาออกจากการรักษาการทั้งคณะ เพื่อเปิดทางให้มีการดำเนินการตามรัฐธรรมนูญเพื่อให้มีการดำเนินการตามข้อ (๑)

(๓) หากรัฐบาลรักษาการณ์เพิกเฉยต่อไป สมาชิกของ ๕ เครือข่าย จะยกระดับการเคลื่อนไหวร่วมกับเครือข่ายอื่นๆทำการขับไล่รัฐบาลและนักการเมืองกลุ่มนี้อย่างเข้มข้นยิ่งขึ้น ด้วยสันติวิธีทุกวิถีทาง (๔) สมาชิกของ ๕ กลุ่มเครือข่าย พร้อมร่วมเป็นพลังพลเมืองเข้าร่วมในกระบวนการทำงานเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย ภายใต้ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข อย่างเต็มที่ต่อไป

เมื่ออ่านแถลงการณ์เสร็จ เราประกาศเชิญผู้แทนจากเครือข่าย นำพวงหรีดสีดำที่มีข้อความว่า “แด่รัฐบาล, รมต.สธ. และลิ่วล้อระบอบทักษิณ” ไปวางที่บริเวณทางขึ้นตึกที่ทำงานของรัฐมนตรี เพื่อแสดงถึงการไม่ยอมรับและขับไล่รัฐบาลรักษาการและกลุ่มการเมืองร่างทรงของระบบทักษิณ

ตอนนี้บุคลากรของกระทรวงสาธารณสุขเข้ามาร่วมกิจกรรมกันหน้าแน่น ณ ลานด้านหน้ากระทรวง ทำให้ขบวนของเรามีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่าตอนเริ่ม ๒ – ๓ เท่าตัว เราใช้โอกาสนี้เชิญชวนทุกคนร่วมเดินทางไปยังห้าแยกลาดพร้าวด้วยกัน

ขบวนของเราเดินทางออกจากกระทรวงสาธารณสุขมาทางซอยอัคนี แล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนงามวงศ์วานเพื่อไปลอดใต้สะพานข้ามถนน วกกลับแล้วเดินไปตามถนน ก็อย่างที่เราบอกไปว่าขบวนยาวมาก กว่าท้ายขบวนจะพ้นปากซอยก็ใช้เวลานานพอสมควร ทำให้การจราจรติดขัดยาวเหยียด ทีมงานต้องประกาศขอโทษผู้ขับรถสัญจรไปมาอยู่บ่อยครั้ง และเชิญชวนเข้าร่วมขบวนไปด้วยกัน

ขบวนค่อย ๆ เคลื่อนไปอย่างช้า ๆ มีผู้คนที่อาศัยอยู่ข้างๆ เดินทางเข้าร่วมขบวนตลอดรายทาง ยิ่งทำให้ขบวนมีความยาวนับหลายร้อยเมตร เรายืนอยู่บนรถไฮปาร์คมองไปที่ท้ายขบวน มองไม่เห็นรถพยาบาลที่เป็นรถปิดท้ายขบวนเลย

ที่น่าประทับใจก็คือ ตลอดเส้นทางที่เราเดินทางผ่านไป ได้รับการบริการจากตำรวจที่เข้ามาช่วยดูแลด้านการจราจร ได้รับน้ำดื่มมากมายจากแม่ค้าพ่อค้าที่มามอบให้ บางคนมามอบเงินให้เช่นเดียวกัน มีผู้คนยืนโบกไม้โบกมือให้กำลังใจมากมาย คนเหล่านั้นต่างเป่านกหวีดและโบกธงชาติไทยยามขบวนผ่าน

จากถนนงามวงศ์วาน สู่สี่แยกเกษตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนพหลโยธิน แล้วไปถึงแยกรัชโยธิน กองปราบปราม ห้างเซ็นทรัล และถึงบริเวณที่ตั้งของเวทีที่มวลมหาประชาชนตั้งรออยู่บริเวณห้าแยกลาดพร้าว อากาศวันนี้ค่อนข้างร้อนมาก แต่ความร้อนไม่สามารถแผดเผาพลังใจของคนในขบวนได้ กลับยิ่งปลุกเร้าการต่อสู้ให้มากยิ่งขึ้น

“พวกคุณเยี่ยมมาก” เสียงจากผู้คนที่นั่นตะโกนกึกก้องรับขบวนพวกเรา มีการจัดเตรียมอาหารน้ำเย็นน้ำหวานมารอรับคนในขบวนอย่างพร้อมท่า พร้อมทั้งเข้ามาขอจับมือแสดงความขอบคุณ

จุดที่เป็นจุดสนใจคงเป็นเจ้า “นกหวีดยักษ์สีเขียว” ที่ตั้งเด่นบนหลังคารถกระบะ แล่นนำหน้ารถเราไป ตัวนกหวีดเขียนข้อความตัวใหญ่ว่า “ปฏิรูปประเทศไทยก่อนเลือกตั้ง” มีผู้ชุมนุมเข้ามาถ่ายรูปเต็มไปหมด

เมื่อมาถึงที่ห้าแยกลาดพร้าว เราจัดเตรียมคนขึ้นไปบนเวทีแล้วอ่านแถลงการณ์ฉบับเดิมอีกครั้ง มีการมอบเจ้านกหวีดยักษ์ให้กับแกนนำคนสำคัญที่ดูแลเวทีนี้ และ “เจ้านกหวีด” ก็ตั้งเด่นเป็นสง่าบนเวทีนั้นสวยงามมากทีเดียว มีคนเด่นคนดัง รวมทั้งดารามากมายหลายคนมาอยู่ที่นี่เช่นเดียวกัน

ที่เต็นท์เวที เราเจอป้ายบอกว่ามาจากจังหวัด “พิจิตร” แขวนอยู่ พยายามมองหาคนรู้จักแต่ไม่เจอ อย่างไรก็ตามดีใจที่เห็นคนพิจิตรได้เข้ามาร่วมกิจกรรมสำคัญของชาติในครั้งนี้ด้วย

ไม่น่าเชื่อนะเพื่อน...งานวันนี้ออกมาสวยงามมาก ริ้วขบวนยาวเหยียด ธงชาติใหญ่และเล็กนับพันโบกสะบัด ริ้วธงชาติหลายคนถูกประดับบนร่างกาย บนเสื้อบ้าง สายรัดหน้าผากข้อมือ บางคนผูกเป็นโบว์ นายดูรูปที่เราแนบมาเองก็แล้วกัน บรรยายไม่ถูกจริง ๆ

เมื่อกลับมาถึงสำนักงานตอน ๓ โมงเย็นเศษ เจอไอเย็นจากเครื่องปรับอากาศ พลันง่วงนอนโดยทันที และหลับยาวไปไม่รู้กี่นาที จนรู้สึกตัวและตื่นมาเขียนจดหมายหานายนี้ล่ะ เสียงเราก็ไม่รู้หายไปไหนหมด คงเป็นเพราะวันนี้ใช้เสียงมาก ทั้งพูดเอง ทั้งตะโกนคุยงานกัน

แม้วันนี้จะเหนื่อยมากแต่ก็มีความสุขมากเช่นเดียวกัน นายคงเฝ้ามองเราอยู่บนฟ้า พร้อมๆ กับที่เสียงนกหวีดจากสรวงสวรรค์ได้ส่งผ่านมายังใจเรา ที่รับรู้พลังของนาย ช่วยให้งานวันนี้สำเร็จลุล่วงด้วยดี

เราขอบคุณนายมากนะที่ส่งกำลังใจให้เราโดยตลอด เป็นวันที่เราภาคภูมิใจอย่างยิ่ง ที่ได้เป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์ของประเทศไทย เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในการปฏิรูปทางการเมือง ซึ่งมีเป้าหมายอยู่ที่การปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่แท้จริง

เราต้องออกเดินทางไประยองกับทีมงานแล้วล่ะ แล้วจะเขียนจดหมายมาหานายอีกนะ

คิดถึงนายมาก

“เราเอง”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น