วันอังคารที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2556

ปีใหม่ความท้าทายใหม่

๑ ตุลาคม ๒๕๕๖

ในวงการราชการเขาบอกว่า วันนี้คือวันขึ้นปีใหม่ของปีงบประมาณใหม่ หรือปี ๒๕๕๗ ผมจึงตั้งหัวข้อว่า "ปีใหม่ความท้าทายใหม่" สำหรับการเริ่มต้นการกลับมาเขียนบล๊อกอีกครั้งหนึ่ง

หากถามว่าแล้ว "ความท้าทายใหม่" ที่ตั้งไว้ในชื่อตอนนะมันคืออะไรล่ะ ก็อยากจะบอกว่าไม่ถึงกับเป็นความท้าทายใหม่อะไรหรอก แต่ได้ทำอะไรใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง ก็แค่นั้นเอง

เริ่มปีใหม่ปีนี้ผมรับงานใหญ่เลยครับ ได้รับมอบหมายให้เดินทางไปกับผู้บริหารท่านหนึ่ง ไปร่วมชี้แจงการประชุมคณะรัฐมนตรีที่ทำเนียบรัฐบาล ใหญ่ไหมล่ะงานนี้

จริง ๆ แล้วจะว่าไปชี้แจงก็ไม่ถูกนักหรอก เพราะได้แค่นั่งรออยู่หน้าห้องประชุม หากมีเรื่องที่ต้องการคำชี้แจงถึงจะมีโอกาสเข้าไปชี้แจง และก็เป็นดั่งว่า พอถึงเรื่องที่ผมเตรียมตัวไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ ๙ นั่งรอประมาณ ๕ นาที เจ้าหน้าที่ก็เดินออกจากห้องประชุมมาบอกว่า "ระเบียบวาระที่ ๙ ผ่านแล้วค่ะ" ทุกคนที่ไปด้วยก็เดินทางกลับ อย่างนี้เขาเรียกว่าไปชี้แจงหรือปล่าวก็ไม่รู้

ก็ดีแล้วล่ะครับที่ไม่ต้องเข้าไปชี้แจง เพราะเรื่องนี้คุยกันมานานมากเกือบปีแล้วครับ คุยกันเองระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าไปประชุมชี้แจงคณะกรรมการกลั่นกรองก็ครั้งหนึ่ง จึงไม่มีประเด็นอะไรที่ขัดแย้งกัน

ที่เล่ามาทั้งหมดนี้เพื่อชี้ให้เห็นถึงกระบวนการทำงานในเรื่องที่จะนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี พูดง่าย ๆ ก็คือกว่าจะเสนอเข้าที่ประชุมได้นั้นมีการปรึกษาหารือจนได้ข้อสรุปกันมาเป็นอย่างดีแล้ว ฉะนั้นเวลาพิจารณาของที่ประชุม ครม. จึงใช้เวลาสั้นมากจริง ๆ ครับ

จะยังไงก็ช่างถือว่าผมได้ทำงานใหญ่ในวันขึ้นปีงบประมาณใหม่ ได้สร้างผลงานบรรลุเป้าหมายขององค์กรไปอีกส่วนหนึ่ง ก็น่าจะดีใจครับ

ผมอยากจะเขียนถึงเรื่องที่เกี่ยวกับความท้าทายใหม่สักหน่อย เรื่องมีอยู่ว่า ๓ เดือนมาแล้วที่ผมเปลี่ยนตำแหน่งมาทำหน้าที่ผู้ช่วยซีอีโอ ทดลองทำมา ๓ เดือน รู้สึกลอย ๆ ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ใครให้ทำอะไรก็ทำ เลยมาคิดว่าจะปล่อยไปแบบนี้หรือ เลยคิดถึงสมัยก่อนที่ผมเคยทำที่องค์กรเดิม เขามีการทำคำรับรองการปฏิบัติงาน พูดง่าย ๆ ก็คือ สัญญาผลงาน ทำตอนต้นปีแล้ววัดผลปลายปี

ผมเอาแนวคิดนี้มาใช้ ยกร่างเป็นเป้าหมายของผมขึ้น เป็นงาน ๓ ส่วน คือ งานที่ซีอีโอมอบหมาย งานหนุนเสริมตามคำร้องขอและงานที่ริเริ่มใหม เสร็จแล้วก็ทำบันทึกถึงซีอีโอเพื่อสัญญาว่าในปี ๒๕๕๗ นี้จะทำงานอะไรบ้าง

ผมเขียนเหตุผลในบันทึกว่าเพื่อความเป็นระบบ ไม่ซ้ำซ้อน และใช้ในการทำงานร่วมกับคนอื่น จริง ๆ แล้วจะได้ใช้เป็นกรอบในการประเมินผลปลายปีอีกด้วย

ก็ไม่รู้ผลจะออกมาอย่างไร เพราะเรื่องได้เสนอให้กับเลขานุการของซีอีโอไปแล้ว

นอกจากผมจะทำแล้ว ผมได้ชวนผู้ช่วยซีอีโออีกคนทำเหมือนกันซึ่งก็ได้เสนอแผนนั้นไปพร้อมกับผม

ผมว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งสำคัญนะครับ การทำงานต้องมีเป้าหมายการทำงานที่ชัดเจน ไม่เช่นนั้นจะหลักลอย วัน ๆ ทำไปแบบไร้จุดหมาย

ก็ถือว่าเริ่มต้นปีใหม่ได้สร้างความท้าทายใหม่ให้กับตัวเอง ด้วยการสัญญากับหัวหน้าว่าจะทำโน้นทำนี่ที่ชัดเจนครับ

แค่นี่แหละที่อยากจะเริ่มต้นปีงบประมาณใหม่ ด้วยการตั้งเป้าหมายการทำงานให้กับตนเอง

เพราะคนต้องมีเป้าหมาย และเป้าหมายมีไว้ให้พุ่งชนครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น